วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประวัติ คริสติน่า อากีล่าร์






ในปี 2554 คริสติน่า อากีล่าร์ กำลังจะมีคอนเสิร์ต 20 ปี คริสติน่า อากีล่าร์ โดย A-time Showbiz จัดที่ Royal Paragon Hall ในวันที่ 4 และ 5 มิถุนายน 2554ประวัติ
คริสติน่า ซุปเปอร์สตาร์นักร้องสาวของเมืองไทย เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2509 เป็นบุตรสาวของโทนี่ อากีล่าร์ นักดนตรีที่มีชื่อเสียงชาวฟิลิปปินส์ กับมากาเร็ต อากีล่าร์ มารดาชาวฝรั่งเศส จบการศึกษาปริญญาตรีด้านเลขานุการการบริหารจากฝรั่งเศส คริสตีน่าเคยเข้าประกวดนางสาวไทย พ.ศ. 2527 โดยใช้ชื่อในการประกวดว่า ตรีจินดา อากีล่าร์สกุล[1] โดยในปีนั้น เรวัติ พุทธินันท์ เป็นพิธีกร[ต้องการอ้างอิง]
ต่อมาเธอก้าวสู่วงการบันเทิงโดยคำชักชวนของเรวัติ ซึ่งรู้จักกับคุณพ่อของเธอ อัลบั้มแรกชุดนินจา คริสติน่า (21 ธันวาคม 2533) ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี มีโปรดิวเซอร์อย่าง ชาตรี คงสุวรรณ เพลงที่ฮิตมากๆ แล้วทำให้คนทั้งประเทศได้รู้จัก ก็คือ เพลง นินจา, พลิกล็อก, ขอคืน, ประวัติศาสตร์, หัวใจขอมา , เปล่าหรอกนะ ฯลฯ ส่งผลให้ยอดขายอัลบั้มชุดนี้ขายได้เกินหลักล้าน ถือเป็นนักร้องหญิงคนแรกที่ทำได้ในขณะนั้น
อัลบั้มที่ 2 "อาวุธลับ" ได้รับรางวัล MTV Asian Viewers Choice Award จากมิวสิควีดีโอเพลงจริงไม่กลัว ซึ่งการตัดสินรางวัลในช่วงเวลานั้น จะทำการโหวตนักร้องรวมทั้งทวีปเอเชีย ไม่มีการแยกเป็นประเทศอย่างเช่นในปัจจุบัน และผู้ชนะจะได้รับเกียรติเดินทางไปรับรางวัลที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคะแนนโหวตส่วนใหญ่ ที่ส่งให้เธอได้รับรางวัลนี้ มาจากประเทศอินเดีย แม้ในอัลบั้มชุดนี้จะไม่เปรี้ยงปร้างเท่าชุดที่แล้วแต่ยอดขายและความนิยมจากประชาชนต่อคริสติน่า ยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคริสติน่าได้ไมเคิล หว่อง มาแสดง MV ในเพลง "เวลาไม่ช่วยอะไร" และ "อย่าให้ถึงวันนั้นเลย" รวมถึงมอสที่มาแสดงใน MV เพลง"เสียใจ เสียฟอร์ม"
ม.ค. ปี 2537 อัลบั้มชุดที่ 3 ชื่อชุด "Red Beat รหัสร้อน" เป็นอัลบั้มที่สร้างยอดขายมากกว่าหนึ่งล้านชุดอีกครั้ง มีเพลงฮิตอย่าง ไม่ยากหรอก (ได้คุณ แอม เสาวลักษณ์ และ คุณ มาช่า วัฒนพานิช มาร่วมเป็นคอรัสแบบไม่เป็นทางการด้วย),ไปด้วยกันนะ , นาทีที่ยิ่งใหญ่ , รักเธอที่สุด ,เลิกเหอะ ,ไม่มีใครขอร้อง
ในปลายปี พ.ศ. 2537 เธอได้ร่วมงานกับ ธงไชย แมคอินไตย์ ร่วมกับอีก 5 สาวในอัลบั้ม "ขนนกกับดอกไม้" และปลายปี 2538 ยังได้มีส่วนร่วมได้อัลบั้ม "6.2.12" ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจนทำยอดขายได้ถึง 2 ล้านตลับ ศิลปินที่ร่วมงานในโปรเจกต์นั้นได้แก่ คุณ อมิตา ทาทา ยัง, มอส, เจ, นัท มีเรีย และ วงบอยแบนด์ UHTซึ่งคริสติน่าได้ร้องไว้สองเพลงคือ "แล้วมารักกันต่อ" และ "ฉันจะรอดู" และในปีเดียวกันนั้น คริสติน่าได้ร้องเพลงเพลง "มีเพียงแต่เธอ" ประกอบละครเรื่องรักหลอกๆ (อย่าบอกใคร)และเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่ประสบความสำเร็จ
ปี 2540 อัลบั้มชุดที่ 4 ชื่อชุด "Golden Eye" มีเพลงฮิตอย่าง อย่ามองตรงนั้น , ฝากความยินดี , พูดอีกที, ไม่ต้องขอบใจ(ยอดขายล้านตลับ และสร้างสถิติ นักร้องหญิงไทยคนแรกที่ขายเทปได้ล้านตลับ ถึง 3 อัลบั้ม)และคริสติน่ายังได้ร่วมแต่งทำนองเพลงในเพลง ใต้ผ้าห่มอุ่น ซึ่งได้รับความนิยมเช่นกัน
ในปี2541 ได้มีอัลบั้มพิเศษอย่าง CHRISTINA REMIX ซึ่งนำเพลงเก่าของเธอมาทำดนตรีใหม่ รวมถึงการนำเพลงของนักร้องท่านอื่นมาร้องใหม่ และที่พิเศษมีการแต่งเนื้อเพลง "ไม่ยากหรอก" เป็นภาษาอังกฤษ
ปี 2542 กับอัลบั้มชุดที่ 5 "5th Avenue" เป็นเพลงแนวพ็อพ-วาไรตี้ มีเพลงที่ดังในช่วงนั้นเช่น รออีกนิดนึง ,หนึ่งนาที ,อุ่นใจ ในปีเดียวกันเธอได้ร่วมงานกับนักร้องชาวอังกฤษ Sarah Jane Fearnley ในอัลบั้มพิเศษชุด You Are The One
ปี 2544 อัลบั้มชุดที่ 6 "Dancing Queen" ซึ่งทำออกมาในภาพลักษณ์หรูหราผสมกับแนวเพลงอิเล็คโรนิคพ็อพ เพลงอาจไม่ค่อยติดหูคนฟังเท่าชุดก่อนๆแต่ทุกเพลงมีการใช้เทคนิคทางดนตรีอย่างมาก ภายใต้การทำงานของโอม ชาตรี คงสุวรรณ สังกัด RPG ในขณะนั้น อย่างเพลง "คิดผิดคิดใหม่" ซึ่งทำ MV ออกมาได้อลังการมาก
ในปี 2546 อัลบั้มชุดที่ 7 "Paradise" ที่ได้กลิ่นอาย แทงโก้ และลาตินมีเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างเพลง สวรรค์อยู่ที่ใจ , ห้องเดิม , อยากฟังคำนั้นตลอดไป
ปี 2547 เธอได้สวมบทบาทจากนักร้องมาเป็นพิธีกรครั้งแรกในชีวิตของเธอ ในรายการ UNSEEN TV ทางช่อง 3 ร่วมกับ ดีเจโจ้(เสียชีวิตแล้ว) และ คุณวู๊ดดี้ ซึ่งออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.15 น.อยู่ระยะสั้นๆ
อัลบั้มชุดที่ 8 "C.Space" ออกในปี 2550 อัลบั้มชุดนี้เป็นที่พูดถึงในเรื่องของเครื่องแต่งกายโดยเฉพาะแว่นตาเพชร และเพลง An Everlasting Love ซึ่งเป็นเพลงที่โปรโมท ได้รับการพูดถึงอยู่ช่วงหนึ่ง
ปี 2552 เธอจับมือกับ "ราชินีป็อบร็อค" ใหม่ เจริญปุระ ออกอัลบั้ม Mai - Tina Beauty on The Beat มีซิงเกิ้ลเพลงแรกที่ร้องคู่กันในเพลง "BURN" จากนั้น ทั้งคู่ได้เปิดการแสดงคอนเสิร์ต ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2552 โดยมี Buddha Bless, ชิน ชินวุฒิ อินทรคูสิน, สิงโต สิงหรัตน์ จันทรภักดี และนิชคุณ หรเวชกุล เป็นแขกรับเชิญ โดยเฉพาะกับนิชคุณ คริสติน่าโดนวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของการแสดงบนเวทีที่ดูไม่เหมาะสม ซึ่งเธอได้ออกมาให้สัมภาษณ์ภายหลังว่าเป็นอุบัติเหตุในการแสดง ไม่ได้ตั้งใจแต่อย่างใด นอกจากที่ใหม่ และติ๊นาร้องเพลงร่วมกันในเพลง เบิร์นแล้ว ในอัลบั้มชุดนี้มีเพลงพิเศษที่แต่งใหม่อีกคนละหนึ่งเพลง (มีใจก็รักกันได้ - ใหม่และ Invisible - คริสติน่า)และเพลงคัฟเวอร์อีกคนละหนึ่งเพลง (ฝุ่น - ใหม่, รักเธอจริงจริง - คริสตินา) และมีซิงเกิ้ลล่าสุดเป็นเพลงช้าที่ร้องร่วมกัน เพลง ฉันกับเขาและคืนนี้ โดยอัลบั้มเต็มวางแผงไปเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2552
ในปี 2553 คริสติน่า อากีล่าร์ ขึ้นคอนเสิร์ตร่วมกับนักร้องอีกหลายท่าน อาทิ ทาทา ยัง ใหม่ เจริญปุระ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ มาช่า วัฒนพานิช แดน วรเวช เจตริน วรรธนะสิน เบน ชลาทิศ อันเป็นความร่วมมือของ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และโซนี่ มิวสิค (ประเทศไทย) เพื่อรำลึกถึงราชาเพลงป๊อบของโลกผู้ล่วงลับ ไมเคิล แจ็คสัน ในวันที่ 21 -22 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี และในปีเดียวกันนั้นเอง เมื่อเดือนพฤษภาคม คริสติน่า อากีล่าร์ ได้ร่วมเพลง ขอความสุขคืนกลับมา แต่งโดย นิติพงษ์ ห่อนาค เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในกทม. และให้ดารานักแสดงและนักร้องหลายท่านมาร่วมร้องเพลงนี้

ในวันที่ 21 ธันวาคม 2553 เป็นวันครบรอบ 20 ปีของการทำงานในวงการเพลงของคริสติน่า อากีล่าร์ (อัลบั้มนินจาคริสติน่า วางแผง 21 ธันวาคม 2533)

ในปี 2554 คริสติน่า อากีล่าร์ กำลังจะมีคอนเสิร์ต 20 ปี คริสติน่า อากีล่าร์ โดย A-time Showbiz จัดที่ Royal Paragon Hall ในวันที่ 4 และ 5 มิถุนายน 2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น